33 สถานที่ ที่สวยงามและน่าทึ่งที่สุดในโลก


ไปดู 33 สถานที่ ที่สวยงามและน่าทึ่งที่สุดในโลก
      โลกของเรานั้นเต็มไปด้วยสถานที่แปลกประหลาดและสวยงาม ซึ่งหลายๆ สถานที่นั้นเราอาจยังไม่เคยรู้ว่ามันมีอยู่
นี่คือบางส่วนของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเรา ไปชมกันเลย



1.  เขาโรไรมา แห่งเวเนซูเอลา
เขาโรไรมา
ดูๆ ไปแล้วเหมือนหุบเขาลอยฟ้า ยังไงยังงั้น
       เขาโรไรมา ตั้งอยู่บนหินฐานทวีปกายอานา ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้ในพื้นที่ 30,000 ตารางกิโลเมตร (12,000 ตารางไมล์) ของอุทยานแห่งชาติคาไนมา ซึ่งก่อให้เกิดยอดสูงสุดในที่เขตที่ราบสูงกายอานา ภูเขารูปโต๊ะของอุทยานได้รับการพิจารณาว่าเป็นการก่อตัวทางธรณีวิทยาที่เก่าแก่ที่สุดบนโลก มีอายุถึง 2 พันล้านปีนับตั้งแต่ยุคพรีแคมเบรียน
       จุดสูงสุดในกายอานาและรัฐโรไรมาของบราซิล ตั้งอยู่เขตพื้นที่ที่ราบสูง แต่เวเนซุล่าและบราซิลยังมีเขาสูงแห่งอื่นอีก พิกัดของเส้นแบ่งเขตแดนของ 3 ประเทศนี้อยู่ที่ 5°12′08″N 60°44′07″W แต่จุดสูงสุดของเขาแห่งนี้คือ มาเวอริคร็อค สูงถึง 2,810 เมตร (9,219 ฟุต) ตั้งอยู่ทางใต้สุดของที่ราบสูงและทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ของเวเนซุเอลา


2.  ทะเลสาปน้ำแข็ง Baikal ในไซบีเรีย รัสเซีย




       ทะเลสาบไบคาล (อักษรโรมัน: Lake Baikal, อักษรซีริลลิก: о́зеро Байка́л) ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซียเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกกว่า 1,640 เมตร ทะเลสาบไบคาลเกิดจากการที่น้ำเอ่อล้นเข้ามาจนเต็มรอยเปลือกโลกที่แตกเมื่อ 25 ล้านปีที่แล้ว ทะเลสาบมีความยาวประมาณ 650 กิโลเมตร กว้างโดยเฉลี่ย 50 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 23,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นทะเลสาปที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก


3.  ชมทุ่งดอกพิงค์มอส Shibazakura ที่สวน Hitsujiyama เมือง Chichibu ที่ญี่ปุ่น



       สวน Hitsujiyama 羊山公園 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีทุ่ง Shibazakura หรือที่รู้จักกันในนาม Pink Moss ปลูกไว้อย่างสวยงามกว่า 400,000 ต้นบนพื้นที่ 17,600 ตร.ม. สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Chichibu จังหวัด Saitama และด้านในสวนมีลักษณะเป็นภูเขาที่มีชื่อว่า Shibazakura Hill สามารถชมวิวเมือง Chichibu ได้ทั้งเมืองจากจุดนี้ โดยทุ่งพิงค์มอสจะบานออกดอกสะพรั่งเต็มที่ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี และยังมีต้นซากุระนานาพันธุ์ปลูกอยู่ภายในสวนกว่า 1,000 ต้นอีกด้วย
เครดิตเว็บ : tiewyeepoon.com


4.  น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ ประเทศไอส์แลนด์




       น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ ตั้งอยู่ที่ฐานของเทือกเขา Eyjafjöll ที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของนักถ่ายรูปเลยทีเดียว น้ำตกสูงกับสายรุ้งเมื่อกระทบกับแสงแดด งดงามทุกมุมมอง

       น้ำตกสโคคาร์ฟอสส์ ตั้งอยู่ในประเทศไอซ์เเลนด์ มีความสูงถึง 61 เมตร เป็นน้ำตกที่ชั้นสูงที่่สุดในไอซ์เเลนด์ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเเละเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมามากที่สุด และเป็นสถานที่ถ่ายรูปธรรมชาติยอดนิยมที่สุด สถานที่หนึ่งเลยทีเดียว


5.  Kalavantin Durg ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย


      ป้อม Prabalgad ตั้งอยู่ระหว่าง Matheran และ Panvel ในรัฐมหาราษฏระของประเทศอินเดีย ในระดับความสูง 2,300 ฟุต ในเทือกเขาเวสเทิร์นกาทส์ (Western Ghat Mountain)


6.  ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา



      เป็นศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยเป็นศาสนสถานประจำพระนครของพระองค์ ตัวเทวสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตลอดจนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร

       ปราสาทนครวัดได้เริ่มสร้างในกลางพุทธศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของ พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เพื่อบูชาแด่พระวิษณุหรือ พระนารายณ์ ในปี พ.ศ. 1720 ชาวจามได้บุกรุกขอม ทำให้พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ต้องย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองนครหลวง หรือ เสียมราฐ ในปัจจุบัน หลังจากนั้น พระองค์จึงสร้างเมืองนครธม และ ปราสาทบายน ห่างจากปราสาทนครวัดไปทางเหนือ เพื่อเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของชาวขอม

       ในปี ค.ศ. 1586 (พ.ศ. 2129) ได้มีนักบวชจากโปรตุเกส นามว่า อันโตนิโอ ดา มักดาเลนา เป็นชาวตะวันตกคนแรกที่ได้ไปเยือนปราสาทนครวัด แต่ที่จะถือว่าเป็นการเปิดประตูให้แก่ปราสาทนครวัดสู่สายตาชาวโลกนั้น คือการค้นพบของ อองรี มูโอต์ นักสะสมแมลงและนักสำรวจชาวฝรั่งเศส เมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่แล้วมา ที่จริงชาวกัมพูชาไม่เคยละทิ้งนครวัดไปเพราะหลังจากมีการย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่พนมเปญแล้ว ชาวบ้านก็ได้เขาไปตั้งรกรากภายในเขตนครวัดเรื่อยมา ปราสาทนครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างในยุคสิ้นสุดของราชอาณาจักรขะแมร์ โดยมีหินทรายเป็นวัสดุก่อสร้างหลัก


7.  โรงแรมผีสิงในประเทศโคลัมเบีย



       โรงแรม Hotel del Salto ใกล้น้ำตก Tuquendama Falls ในประเทศ Colombia เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1928 สำหรับลูกค้าที่มั่งคั่งร่ำรวยเท่านั้น แต่หลายปีต่อมาแม่น้ำ Bogotá เริ่มมีมลภาวะทางน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นักท่องเที่ยว/ผู้เข้าพักลดลง
       ในปี 1950 แม้ว่าจะมีความพยายามอีกครั้งที่จะปรับปรุงตัวอาคาร/ห้องพัก 18 ห้องพัก แต่ก็ยังมีคนเข้าพักไม่เพียงพอกับจุดคุ้มทุน ในที่สุดในปี 1990 โรงแรมได้เลิกกิจการแล้วทิ้งร้างไปเลย ต่อมามีคนหลายคนเข้าไปฆ่าตัวตายในโรงแรมร้างแห่งนี้มาก ทำให้มีข่าวลือว่ามีผีสิงหลายตัวในโรงแรมร้างแห่งนี้
เครดิตข้อมูล : oknation.net


8.  ท้าทายความสูง กับภูเขา Trolltunga ประเทศนอร์เวย์


       Trolltunga คือ หินผาที่ทอดยาวออกมาจากเขา ซึ่งมีความยาวกว่า 700 เมตร มีความสูงเหนือทะเลสาบ Ringedalsvatnet ประมาณ 2,300 ฟุต แม้จะดูหวาดเสียวไปซะหน่อย แต่หากคุณกล้าที่จะเสี่ยงมายืนกินลมชมวิว ณ จุดนี้ ความงามเกินบรรยายของทะเลสาบสีฟ้าที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา จะทำให้คุณเพลิดเพลินจนลืมความกลัวไปเลยล่ะ


9.  หินมีปีก ที่นิวเม็กซิโก


       Shiprock หรือ หินมีปีก ตั้งอยู่ที่ทะเลทรายบนนาวาโฮ นิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีระดับความสูงที่จุดสูงสุดที่ 2,187.5 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 17.30 กิโลเมตร หินนี้มีบทบาทสำคัญในนาวาโฮ ทางด้านศาสนาตำนานและประเพณี มันตั้งอยู่ในใจกลางของอารยธรรมโบราณหรือ Puebloan ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวอเมริกันพื้นเมืองยุคก่อนประวัติศาสตร์ของภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา คนพื้นบ้านมักจะเรียกว่า Anasazi Shiprock เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับนักปีนเขาหินและช่างภาพ ในการผลิตภาพยนตร์และนวนิยายหลายเรื่อง มันเป็นสถานที่สำคัญโดดเด่นที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก.....


10.  หน้าผาสุดหวาดเสียว ประเทศนอร์เวย์



       Pulpit Rock หรือ Preikestolen ผาสูงสุดเสียว อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันท้าท้ายและดึงดูดใจแห่ง Ryfylke ประเทศนอร์เวย์ ด้วยความสูง 1,982 ฟุต (604 เมตร) จากระดับน้ำทะเล พื้นที่ส่วนบนของหน้าผาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณ 82 x 82 ฟุต (25 x 25 เมตร)
       การเดินทางไปสัมผัส Pulpit Rock ต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยการเดินเท้าดั้นด้นลัดเลาะขึ้นไปตามเขา ซึ่งสลับความยากง่ายไปตามพื้นที่ ระยะทางโดยรวมประมาณ 3.8 กิโลเมตร ในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมาเยือนผาสูง Pulpit Rock แห่งนี้ถึง 130,000 คน


11.  ถ้ำอชันตา ที่อินเดีย


      ถ้ำอชันตา (อังกฤษ: Ajanta Caves, มราฐี: अजिंठा लेणी) ตั้งอยู่ในเมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย ได้ชื่อว่าเป็น วัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก สร้างเมื่อ พ.ศ. 350 โดยพระภิกษุในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่แห่งนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรมกรรมฐานเป็นอย่างยิ่ง จึงได้เจาะภูเขาเพื่อสร้างเป็นกุฏิ โบสถ์ วิหาร ฯลฯ เพื่ออาศัยอยู่อย่างสันโดษ เนื่องจากเป็นสถานที่ห่างไกลผู้คน ภายในเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน เป็นองค์เจดีย์ เป็นพระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำ เล่าเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดก ในปี พ.ศ. 2527 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย องค์การยูเนสโก


12.  เขื่อน Mauvoisin ประเทศสวิตเซอร์แลนด์


      เขื่อน Mauvoisin นอกจากจะเป็นเขื่อนประตูโค้งที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกแล้ว ยังมีทัศนียภาพที่งดงามราวกับเป็นภาพวาดอีกด้วย จากน้ำสีฟ้าอ่อนๆ ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา แบบนี้แล้วใครจะคิดว่ามันเป็นเพียงเขื่อนกันนะ


13. วิวสวยๆ จากนอร์เวย์



14. ประภาคารเก่าแก่ ที่สก็อตแลนด์


ประภาคาร Neist Point ตั้งอยู่ใน Highlands & Islands ที่ประเทศสก็อตแลนด์ เป็นสถานที่สำคัญของพื้นที่นี้ เนื่องจากวิวทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ และประภาคาร Neist Point ตั้งอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 1909


15. น้ำตกเพลิงหางม้า แคลิฟอเนียร์




       น้ำตกฮอร์สเทล (Horsetail Fall) หรือ น้ำตกหางม้า น้ำตกสีแดงเพลิงที่สร้างความตื่นตะลึง!ให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างมาก โดยน้ำตกอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) สถานที่ท่องเที่ยว สำคัญแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา และมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 3 ล้านคนต่อปี ต่อมาอุทยานแห่งชาติโยเซมิตีได้เป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1984)
       น้ำตกฮอร์สเทล หรือนิยมเรียกกันอีกชื่อว่า น้ำตกเพลิงหางม้า หรือ น้ำตกเพลิง (Firefall) จุดท่องเที่ยวยอดนิยมของอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี น้ำตกที่มีลักษณะไหลออกมาเป็น 2 สาย ก่อนจะรวมกัน เป็นสายเดียวรวมความสูงทั้งหมดประมาณ 630 เมตร (2,070 ฟุต) โดยด้านทางทิศตะวันออกมีขนาดใหญ่กว่าอีกด้าน โดยด้านตะวันออกมีความสูงประมาณ 470 เมตร (1,540 ฟุต) ส่วนทางด้าน ตะวันตกมีความสูงประมาณ 480 เมตร (1,570 ฟุต)
       โดยสีของน้ำในน้ำตกนั้นเกิดจากการที่น้ำจากน้ำตกสะท้อนแสงกับแสงอาทิตย์แล้วส่องสว่างออกมาเป็นแสงสีส้มหรือแดง ซึ่งหากมองจากระยะไกลก็จะเหมือนกับว่าน้ำตกไหลออกมาเป็นลาวาจากภูเขาไฟ


16. น้ำตกสุดยิ่งใหญ่ ไกย์เอตูร์

       น้ำตกไกย์เอตูร์ (อังกฤษ: Kaieteur falls) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นน้ำตกของแม่น้ำโปตาโร ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไกย์เอตูร์ ในเขตประเทศกายอานา
       น้ำตกไกย์เอตูร์ เป็นน้ำตกชั้นเดียว มีความสูงถึง 741 ฟุต (226 เมตร) สูงกว่าน้ำตกไนแองการาถึง 4 เท่า และสูงกว่าน้ำตกวิกตอเรีย 2 เท่า น้ำตกไกย์เอตูร์เป็นน้ำตกที่มีการค้นพบหลังจากชาวตะวันตกได้เข้ามายึดครองอเมริกาใต้นานถึง 350 ปี
       ปริมาณน้ำตกลงมาด้วยความเร็วประมาณ 663 คิวบิคเมตรต่อวินาที (23,400 คิวบิคฟุตต่อวินาที)
       คำว่า "ไกย์เอตูร์" มีความหมายว่า "น้ำตกชายชรา"


17. น้ำตกวิกตอเรีย



      น้ำตกวิกตอเรีย (อังกฤษ: Victoria Falls) หรือในชื่อท้องถิ่นว่า โมซิ-โอวา-ทุนยา (Mosi-oa-Tunya; ควันที่ส่งเสียงร้องคำราม) ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบีย และ ประเทศซิมบับเว เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกค้นพบครั้งแรกโดย ดร.เดวิด ลิฟวิงสโตน ในปี ค.ศ. 1855 ซึ่งเป็นผู้ตั้งชื่อน้ำตกนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย

       น้ำตกวิกตอเรียเกิดจากแม่น้ำซัมเบซีซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนของสองประเทศ ตกลงมาสู่แอ่งลึก น้ำตกมีขนาดกว้างกว่า 1690 เมตร สูงประมาณ 60-100 เมตร น้ำตกวิกตอเรียสามารถแบ่งเป็น 4 ส่วนย่อย ได้แก่ น้ำตกปีศาจ น้ำตกหลัก น้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกตะวันออก ไอน้ำจากน้ำตกวิกตอเรียสามารถมองเห็นได้จากระยะทาง 20 กิโลเมตร

       น้ำตกวิกตอเรียได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2532 ปัจจุบันน้ำตกวิกตอเรียเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งสร้างรายได้ที่สำคัญของประเทศแซมเบียและประเทศซิมบับเว จึงมีการสร้างโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในทั้งสองประเทศ แต่การพัฒนาเหล่านี้ขาดการควบคุมจัดการที่ดีองค์การยูเนสโกจึงเคยพิจารณาจะถอนน้ำตกวิกตอเรียออกจากการเป็นมรดกโลก


18. ทะเลสาบน้ำเค็มที่อินเดีย



Pangong Lake เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่อยู่สูงถึง 4,250 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีความยาว 134 กิโลเมตร ผู้เขียนได้ไปช่วงปลายเดือนเมษายน ยังอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาว อากาศยังหนาวจัดมาก ผิวน้ำในทะเลสาปยังมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่เป็นส่วนมาก บางส่วนก็เริ่มบางลงและแตก ลอยมากองกันอยู่ริมหาด ดูสวยแปลกไปอีกแบบ ช่วงฤดูที่เป็นไฮซีซั่น ของที่นี่คือช่วง มิ.ย. - ส.ค. อากาศไม่หนาวจัดมาก นำแข็งในทะเลสาปจะละลายหมดแล้ว กลายเป็นทะเลสาปสีเทอร์คอยซ์ ที่สวยงาม ในช่วงฤดูหนาว การเดินทางมายังทะเลสาปแปงกอง ค่อนข้างลำบากหรืออาจไปไม่ได้ เพราะต้องขับรถผ่านเทือกเขาสูงที่ปกคลุมด้วยหิมะหนา โดยเฉพาะช่วงที่เป็นจุดสูงสุด Chang la pass 5,360 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ได้รับการจัดอันดับเป็นทางรถยนต์ ที่สูงเป็นอันดับสามของโลก อากาศที่เบาบางและหนาวจัด อาจทำให้หลายคนเกิดอาการแพ้ที่สูง ความสวยงามของทะเลสาปและทิวทัศน์ภูมิประเทศโดยรอบ ทุกอย่างดูยิ่งใหญ่อลังการ ถือเป็นสถานที่ๆประทับใจมากสุดๆอีกทริปที่ได้ไปเยือน


19. ทะเลสาบดาล ในอินเดีย

       ทะเลสาปดาล เป็นทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในแคบเมียร์ อยู่ที่รัฐจามู-แคชเมียร์ ประเทศอินเดีย อยู่ในเมืองศรีนาคา พื้นที่กว้างมากและยังมีเกาะกลางทะเลสาปเป็นหย่อมๆ ที่ชาวบ้านใช้ปลูกพืชผักผลไม้ได้อีก รวมทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของแคชเมียร์
       ในฤดูร้อนที่ทะเลสาปดาล ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นๆ ผู้คนนิยมมานั่งเรือชิคารา ชมวิวทิวทัศน์ บรรยากาศแบบโรแมนติก จนได้ชื่อว่า "มาแคชเมียร์แล้วไม่ได้ล่องเรือชิคาราทะเลสาปดาล เหมือนมาไม่ถึงแคชเมียร์"


20. เกาะอันเงียบสงบ ที่ไอซ์แลนด์

      นอกชายฝั่งทางทิศใต้ของไอซ์แลนด์มีหมู่เกาะที่เรียกว่า Vestmannaeyjar ในภาษาอังกฤษเรียกว่าเกาะ West Man ภาพที่เห็นเป็นเกาะเล็กๆในหมู่เกาะที่ชื่อว่า เกาะ Elliðaey เกาะนี้ โผล่ออกมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ซึ่งเกือบทั้งปีจะมีประชากรเป็นเพียงแค่นกทะเลที่ใช้เกาะเป็นสถานที่ทำรังเท่านั้น แต่สิ่งทำให้เกาะเล็ก ๆ นี้น่าสนใจก็คือ บ้านลึกลับโดดเดี่ยวที่ตั้งอยู่ที่นั่น
      ว่ากันว่า 300 กว่าปีที่แล้วเคยมีคนอาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนี้ เป็นครอบครัว 5 ครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่ โดยจะหากินจากการตกปลา เลี้ยงวัว และล่านก puffins ที่มาทำรังอยู่ที่เกาะแห่งนี้
เครดิต : http://thaiviral.com/


21. Durdle Door แห่ง เทือกเขา Jurassic Coast, ประเทศอังกฤษ
       Durdle Door เป็นซุ้มประตูหินปูนธรรมชาติบนชายฝั่ง Jurassic Coast ใกล้ Lulworth ในดอร์เซ็ท ประเทศอังกฤษ ซุ้มประตูรูปร่างเหมือนกับงวงช้างจุ่มลงในน้ำ


22. Man of War Bay, England, UK




23. Furka Pass, Switzerland


24. Pura Lempuyang Door, Bali, Indonesia


25. Machu Picchu, Peru


26. Niagara Falls Edge


27. Phuktal Monastery in Ladakh, India


28. Heaven’s Gate Mountain (Tianmen Mountain), Zhangjiajie City, China


29. Heaven-Linking Avenue: 7 Miles to Heaven’s Gate Mountain (Tianmen Mountain), Zhangjiajie City, China


30. Amber Fort, Jaipur, Rajasthan, India


31. Mont Saint-Michel Castle, France


32. Canyon Staircase, Ecuador


33. Chand Baori – The World’s Largest Step-well, India